การเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามระบบรีไซเคิลในบ่อดิน
อนันต์
ตันสุตะพานิช
คำนำ
กุ้งก้ามกราม
กุ้งหลวง
กุ้งนาง
กุ้งใหญ่
เป็นกุ้งชนิดเดียวกัน
ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นของไทยเรียกแตกต่างกันไป
มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า
Giant prawn หรือ giant fresh water
prawn
มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า
Macrobrachium rosenbergii de Man
เป็นสัตว์น้ำอีกชนิดหนึ่งที่มีรสชาติดีมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ
วงจรชีวิตตามธรรมชาติของกุ้งชนิดนี้
(ภาพที่ 1)
ช่วงวัยอ่อนจะหงายท้องว่ายน้ำ
อาศัยเจริญเติบโตอยู่ในแหล่งน้ำกร่อย
(ความเค็มระหว่าง
10-17
ส่วนในพันส่วน)
แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
(Juveniles)
ก็จะเดินทางเข้าไปอาศัยเจริญเติบโตอยู่ในแหล่งน้ำจืด
วิวัฒนาการเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกราม
- สมศักดิ์
สิงหลกะ 2520
รายงานการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามในบ่อซีเมนต์ใช้น้ำเขียว
ความลึกประมาณ 85
ซม.
ใช้เนื้อปลาโอบด
ไรน้ำจืด
และไรน้ำเค็มให้เป็นอาหาร
ดูดตะกอนทุกวันและเปลี่ยนถ่ายน้ำวันละประมาณ
30%
เมื่อลูกกุ้งเริ่มคว่ำก็จะเริ่มลดความเค็มลง
- ไพโรจน์
พรหมานนท์
และทรงชัย
วัชรินทร์ 2521,
สมศักดิ์
สิงหลกะ
และชำนาญ
สุขพันธุ์ 2522,
เพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามโดยกรองน้ำใช้หมุนเวียน
- อนันต์
ตันสุตะพานิช
และคณะ 2524, 2526
ได้เลิกการทำน้ำเขียวหรือเลิกการทำสีน้ำ
พร้อมทั้งได้เริ่มต้นนำน้ำเค็มจากนาเกลือ
และน้ำเกลือผสมมาใช้ในการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามในบ่อซีเมนต์
อีกทั้งได้เริ่มต้นใช้ไข่ตุ๋น
(ไข่+นม+หอยหรืออาร์ทีเมียโตเต็มวัย)
เป็นอาหารลูกกุ้ง
ตลอดจนได้เริ่มต้นย้ายลูกกุ้งที่คว่ำแล้ว
กับที่ไม่คว่ำออกจากกัน
- อนันต์
ตันสุตะพานิช
และคณะ 2537
ได้ริเริ่มพัฒนานวัตกรรมการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามในบ่อดินเป็นผลสำเร็จ
โดยการตากบ่อให้แห้ง
และบดอัดพื้นที่บ่อให้แน่น
วางท่ออัดอากาศกระจายทั่วพื้นบ่อ
ใช้น้ำความเค็มระหว่าง
13-16
ส่วนในพันส่วน
ระดับน้ำลึกประมาณ
1 เมตร
ใช้แม่กุ้งที่มีไข่แก่ประมาณ
10-20 กก./ไร่
ใส่กระชังแขวนไว้ในบ่อประมาณ
3-5 วัน
ก็ยกกระชังพร้อมแม่กุ้งออกจากบ่อใช้อาหารธรรมชาติ
พวกไรน้ำกร่อย
ไรน้ำเค็ม (อาร์ทีเมียวัยอ่อน)
และอาร์ทีเมียโตเต็มวัยให้เป็นอาหารในระหว่างการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามไม่มีการเปลี่ยนน้ำ
- สำหรับปี 2543
ได้พัฒนานวัตกรรมต่อเนื่องเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามระบบรีไซเคิลในบ่อดิน
โดยบำบัดตะกอนเลนและน้ำทิ้งที่ใช้เพาะเลี้ยงลูกกุ้งโดยตรงไม่ได้และที่ใช้ในการเลี้ยงกุ้งรุ่นที่ผ่านมาจนกระทั่งกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้วใช้ในการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งซ้ำอีก
มีปัจจัยในการดำเนินการดังนี้
อุปกรณ์และปัจจัยที่จำเป็นในการดำเนินการมีดังนี้
-
น้ำจืดและน้ำเค็มตลอดจนตะกอนเลนที่มีสิ่งปฏิกูลปนเปื้อน
สำหรับใช้ในการเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง
-
บ่อดินที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง
(25 x 32 x 2 เมตร)
และบ่อสำรองน้ำ
(10 x 50 x 2.5 เมตร)
สำหรับใช้ทดแทนส่วนที่ระเหยและรั่วซึม
ตลอดจนใช้เพาะเลี้ยงอาหารธรรมชาติ
พร้อมระบบท่อสูบน้ำหมุนเวียนน้ำด้วยแรงอัดอากาศระหว่างบ่อเพาะเลี้ยงลูกกุ้งและบ่อสำรองน้ำ
-
ระบบอัดอากาศเพิ่มลงน้ำประกอบด้วย
เครื่องอัดอากาศเพิ่มลงน้ำ
พร้อมเครื่องควบคุมเปลี่ยนออกซิเจนให้เป็นโอโซน
ท่อส่งอากาศหลักวางบนคันบ่อ
และท่อส่งอากาศรองวางกระจาย
ทั่วพื้นบ่อ (วางท่อส่งอากาศเข้าเลาะข้างคันบ่อด้วย)
ระยะห่างระหว่างท่อส่งอากาศรองไม่เกิน
2
เท่าของความลึกของน้ำในบ่อ
เจาะรูที่ท่อส่งอากาศรองทุก
ๆ
ระยะห่างประมาณ 2
เมตร
ด้วยดอกสว่านเบอร์
1/16 - 3/64
เฉพาะส่วนซึ่งวางที่พื้นบ่อ
(ส่วน slope
ข้างบ่อควรวางท่อเลาะตามแนวบ่อและเจาะรูต่างหาก)
-
อวนมุ้งไนล่อนสำหรับรวบรวมศัตรูของลูกกุ้งออกจากบ่อในช่วงก่อนเพาะเลี้ยงลูกกุ้งและช่วงลูกกุ้งขนาดเล็กที่ยังรอดตาอวนได้
ตลอดจนใช้รวบรวมลูกกุ้ง
เมื่อลูกกุ้งคว่ำหมดแล้ว
-
คราดพรวนโซ่สำหรับใช้คราดพรวนตะกอนเลนทั้งในบ่อเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง
และบ่อสำรองน้ำ
-
เครื่องพ่นน้ำให้ตะกอนเลนในบ่อต่างๆ
ใช้สูบน้ำฉีดพ่นพื้นบ่อในส่วนที่คราดพรวนโซ่คราดพรวนไม่ถึงให้ฟุ้งกระจาย
-
อาหารลูกกุ้งวันอ่อน
ได้แก่ ไข่ตุ๋น
อาร์ทีเมียขนาดโตเต็มวัย
ไรน้ำเค็ม
-
แม่กุ้งซึ่งมีไข่แก่
- อุปกรณ์อื่น ๆ
เท่าที่จำเป็นนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว
การเตรียมบ่อและน้ำก่อนเพาะเลี้ยง
- ไม่ต้องตากบ่อ
ไม่ต้องนำตะกอนเลนออกจากบ่อ
ไม่ต้องทิ้งน้ำ
-
หลังจากสูบน้ำกร่อยที่มีสิ่งปฏิกูลปนเปื้อนไปฝากบ่ออื่นแล้วเร่งวางระบบท่ออัดอากาศ
เพิ่มลงน้ำให้เสร็จแล้วระบายน้ำเข้าบ่อที่จะใช้เพาะเลี้ยงลูกกุ้งและบ่อสำรองน้ำระดับเท่ากันลึกประมาณ
1.5 เมตร
ความเค็มประมาณ
11-13
ส่วนในพันส่วน
เปิดเครื่องอัดอากาศเพิ่มลงน้ำต่อเนื่อง
ปรับ pH
ของน้ำด้วยปูนขาว
ให้มีค่าอยู่ระหว่าง
8.0-8.5
พร้อมใช้คราดพรวนโซ่พรวนตะกอนเลนที่พื้นบ่อทุกวัน
จนกระทั่งตะกอนเลนและน้ำกลับคืนสู่ภาวะปกติสมดุล
แล้วจึงดำเนินการขั้นต่อไป
-
ตกตะกอนไอออนของพวกโลหะกลุ่มเหล็ก
ซึ่งละลายน้ำอยู่
ให้แยกออกจากน้ำด้วยสารพวกที่เป็นออกซิไดซิ่งเอเจนท์
เช่น
สารประกอบพวกไฮโปรคลอไรท์
หรือและโอโซน
พร้อมกำจัดศัตรูของลูกกุ้งออกจากบ่อด้วย
แล้วใช้คราดพรวนโซ่และเครื่องพ่นน้ำพรวนตะกอนเลนทุกวัน
เมื่อน้ำในบ่อกลับคืนสู่ภาวะปกติสมดุลแล้วจึงจะเริ่มใช้ในการเพาะเลี้ยง
การเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง
-
หลังจากเตรียมบ่อและน้ำเสร็จแล้ว
ยังต้องเปิดเครื่องอัดอากาศผ่านท่อลงน้ำต่อเนื่อง
พร้อมคัดแม่กุ้งที่มีไข่แก่ปล่อยลงในกระชังอวนมุ้งไนล่อน
(ช่วงตาระหว่าง
16-18 ตา/นิ้ว)
ขนาดประมาณ 2x4x0.9
เมตร
ซึ่งแขวนไว้ในบ่อก่อนแล้วประมาณ
30 กก./บ่อ
ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ
3 วัน
คัดแม่กุ้งที่ไข่ฟักหมดแล้วขึ้น
ส่วนแม่กุ้งที่ฟักไม่ออกก็ให้ยกไปเพาะฟักในบ่อถัดไป
- การให้อาหาร
ตราบเท่าที่ในบ่ออนุบาลลูกกุ้งยังมีอาหารธรรมชาติ
เช่น โรติเฟอร์
และไรน้ำกร่อยอยู่มากก็ยังคงปล่อยให้ลูกกุ้งกินอาหารธรรมชาติต่อไป
ไม่ต้องให้อาหาร
แต่เมื่ออาหารที่เกิดเองตามธรรมชาติเริ่มหมดจึงเริ่มให้ไข่ตุ๋นสลับกับอาร์ทีเมียวัยอ่อนประมาณ
5 วัน
หลังจากนั้นก็ให้ไข่ตุ๋นสลับกับอาร์ทีเมียขนาดโตเต็มวัย
โดยทยอยให้บ่อยครั้งอย่างเพียงพอต่อเนื่องประมาณ
2-3 ชั่วโมง/ครั้ง
อย่าให้อาหารมากเกินไป
เพราะจะทำให้น้ำเสีย
การควบคุมและรักษาความสะอาดและความสมดุลสิ่งแวดล้อมในฟาร์ม
-
เปิดเครื่องปรับอากาศผ่านท่อเพิ่มลงน้ำอย่างต่อเนื่อง
-
สูบน้ำหมุนเวียนด้วยแรงอัดอากาศระหว่างบ่อเลี้ยงลูกกุ้งกับบ่อสำรองน้ำเป็นระยะ
ๆ
ตลอดการเลี้ยงลูกกุ้ง
-
คราดพรวนตะกอนเลน
ทั้งในบ่อเลี้ยงลูกกุ้งและบ่อสำรองน้ำทุกวัน
วันละครั้ง (เฉพาะช่วงก่อนให้อาหารประมาณ
1 ชั่วโมง)
เพื่อป้องกัน
ไม่ให้พื้นบ่อเน่า
ป้องกันไม่ให้เกิดขี้แดด
และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปรสิต
พวกซูโอแทมเนียมในบ่อ
- ตรวจวัด pH
ทุกเช้าและหลังฝนตก
ถ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
8.0-8.5 แล้ว
ไม่ต้องปรับ
แต่ถ้าต่ำกว่า 8.0
ให้ใช้น้ำปูนใส
(pH 11)
ทยอยสาดทั่วบ่อเลี้ยงลูกกุ้งประมาณ
10-100 ซีซี/น้ำ 1 ม3/ครั้ง
เฉพาะช่วงก่อนให้อาหารประมาณครึ่งชั่วโมง
(ถ้าเป็นช่วงพรวนตะกอนเลนด้วย
ก็ให้ใส่น้ำปูนใช้ต่อจากพรวนตะกอนเลนเสร็จ)
-
ในช่วงสภาวะแวดล้อมไม่ปกติตั้งเวลาอัตโนมัติ
เพื่อเปิดเครื่องเปลี่ยนออกซิเจนให้เป็นโอโซนประมาณ
3-4 ชั่วโมง
เปิดเครื่องประมาณ
15 นาที
-
ล้างทำความสะอาด
ทั้งเสาหลักและท่อต่าง
ๆ
ในบ่ออนุบาลลูกกุ้งประมาณสัปดาห์ละครั้ง
-
ในช่วงที่ลูกกุ้งยังเล็กลอดตาอวนมุ้งไนล่อนได้
ก็ใช้อวนมุ้งไนล่อนลากรวบรวมแมลงน้ำและสิ่งมีชีวิตอื่น
ๆ
ที่มีขนาดใหญ่ออกจากบ่อ
แต่หลังจากนั้นถ้ามีแมลงน้ำในบ่อมาก
ก็อาจจะต้องกำจัดแมลงน้ำด้วยน้ำมัน
-
รวบรวมหรือจับลูกกุ้งออกจากบ่อ
หลังจากลูกกุ้งในบ่อคว่ำหมดแล้ว
โดยใช้อวนมุ้งไนล่อนลากรวบรวมลูกกุ้งแจกจ่ายต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ไพโรจน์
พรหมานนท์
และทรงชัย
สหวัชรินทร์. 2521.
การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม.
กรมประมง. 55 หน้า
สมศักดิ์
สิงหลกะ. 2520.
การเพาะกุ้งก้ามกรามที่สถานีประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา.
รายงานประจำปี
2520-2530.
สถานีประมงน้ำกร่อยจังหวัดฉะเชิงเทรา.
กองประมงน้ำกร่อย.
กรมประมง. หน้า
104-107.
สมศักดิ์
สิงหลกะ
และชำนาญ
สุขพันธ์. 2521.
การเพาะกุ้งก้ามกรามโดยระบบน้ำหมุนเวียนแบบง่าย
ๆ .
รายงานประจำปี
2520-2530.
สถานีประมงน้ำกร่อยจังหวัดฉะเชิงเทรา.
วารสารการประมง.
ปีที่ 34. ฉบับที่ 6.
หน้า 603-613.
อนันต์
ตันสุตะพานิช
และพจนีย์
แพงไพรี. 2524.
แนวทางเพิ่มผลผลิตลูกกุ้งก้ามกราม.
กองประมงน้ำจืด.
กรมประมง. 33 หน้า.
อนันต์
ตันสุตะพานิช
และคณะ. 2526.
แนวทางเพิ่มผลผลิตลูกกุ้งก้ามกราม
(การเพาะเลี้ยงลูกกุ้งในน้ำเกลือผสม).
กองประมงน้ำจืด.
กรมประมง. 33 หน้า.
_____________________________. 2537.
การพัฒนาวิธีการเพาะและอนุบาลลูกกุ้งก้ามกรามในบ่อดิน.
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี.
กรมประมง. 14 หน้า.
จากหนังสือเสวนาวิชาการเรื่อง
กุ้ง
ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล
คณะประมง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รศ.ประจวบ
หลำอุบล